เก้าอี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถือได้ว่าสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในบ้าน แต่หากมองทางด้านสุนทรียะในการตกแต่งแล้ว เชื่อว่าเก้าอี้ที่ตอบสนองการใช้งานคือ นั่ง ได้เพียงอย่างเดียวคงยังไม่ โดน ใจหลาย ๆ คนหรอก ด้วยเหตุนี้บรรดานักออกแบบทั้งหลายจึงต้องใส่ ดีไซน์ ลงไปด้วย
ดีไซเนอร์หลาย ๆ คนจึงออกแบบเก้าอี้ให้เป็นจุดสร้างความโดดเด่นของงานตกแต่งภายในมากขึ้นโดยมีพื้นฐานสำคัญคือการรองรับฟังก์ชันการใช้งานหลักของมันไปด้วย นอกจากนี้พวกเขายังต้องตอบโจทย์สำคัญอีกข้อหนึ่งให้ได้ไปด้วย นั่นก็คืองานที่ออกมาต้องกลมกลืนได้กับเครื่องเรือนชิ้นอื่น ๆ ภายในบ้าน
เราลองไปดูวิวัฒนาการของการออกแบบเก้าอี้กันดีกว่าไหมว่ามีชิ้นงานไหนบ้างที่สร้างความตื่นตัวให้แวดวงการออกแบบ? งานชิ้นไหนเป็นต้นแบบในการออกแบบเก้าอี้มาจนถึงทุกวันนี้ ย้อนยุคกลับไปตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จนมาถึงยุคทศวรรษที่ 50 กันเลย
Red and Blue Chair
ออกแบบโดย Gerrit Rietveld (ปี 1918)
แรกเริ่มของไอเดียในการผลิต Red and Blue Chair นั้น แกร์ริต รีทเฟลด์ไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น หากแต่เขาคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่ช่วยสะท้อนประวัติศาสตร์ทางด้านสถาปัตยกรรมในยุคผ่าน ๆ มา ด้วยรูปทรงที่แปลกตาแต่ดูเรียบง่ายจึงไม่น่าแปลกที่เก้าอี้ตัวนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์ของงานในยุคศตวรรษที่ 20
Wassily
ออกแบบโดย Sessle Von Marcel Breuer (ปี 1925)
โครงสร้างของเก้าอี้ตัวนี้ใช้เหล็กท่อเป็นส่วนประกอบหลักและถือว่าเป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ใช้เหล็กท่อด้วย มาร์เซล บรอยเยอร์ได้แนวคิดนี้มาจากโครงสร้างของจักรยาน Adler ส่วนชื่อของเก้าอี้ Wassily นั้นมาจากชื่อ Wassily Kandinsky ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเอง ซึ่งเจ้าเพื่อนคนนี้นี่แหละที่ได้รับเกียรติให้เป็นคนแรกที่ได้ใช้เก้าอี้ตัวนี้
วาสซิลีแชร์สร้างกระแสให้กับการออกแบบอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปทรงที่นำสมัยและใช้วัสดุที่สื่อถึงเทคโนโลยีส่งผลให้งานของเขาไม่ตกยุค งานออกแบบในยุคต่อ ๆ มาได้รับอิทธิพลจากเก้าอี้ตัวนี้อย่างไม่ขาดสายเลยด้วย แม้กระทั่งสถาปนิกเอกแห่งฝรั่งเศสอย่างเลอ กอร์บูซิเยร์ยังนำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจใน Basculant Chair ด้วย
Basculant Chair
ออกแบบโดย Le Corbusier (ปี 1928)
นี่คือผลงานชิ้นเอกของเลอ กอร์บูซิเยร์สถาปนิกชาวฝรั่งเศส โดยเก้าอี้ตัวนี้ใช้วัสดุรวมทั้งมีรูปทรงที่โปร่ง เบา สบาย สถาปนิกเอกแห่งเมืองน้ำหอมคนนี้เลือกใช้วัสดุที่นำสมัยและสื่อถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า โดยกำหนดโทนสีของเก้าอี้ (แบบต้นฉบับ) เป็นสีเข้ม ก่อนจะถูกนำมาเพิ่มลูกเล่นด้วยวัสดุประกอบอย่างหนังสัตว์ รวมทั้งมีสีพิเศษด้วย
Barcelona Chair
ออกแบบโดย Mies Van Der Rohe (ปี 1929)
เก้าอี้ดีไซน์นี้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อใช้ประกอบกับพาวิลเลียนของเยอรมัน รวมทั้งใช้เป็นที่รับเสด็จองค์กษัตริย์และองค์ราชินีแห่งสเปนขณะที่ทรงเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าในครั้งนั้นด้วย เก้าอี้บาร์เซโลนา ออกแบบโดยมีส์ ฟาน เดอ โรห์ สถาปนิกชื่อก้องโลกชาวเนเธอร์แลนด์ผู้เปลี่ยนแปลงวงการสถาปัตยกรรมให้เข้าสู่ความสมัยใหม่
บาร์เซโลนาแชร์เมื่อนำมาประกอบกับที่ว่างภายในจะบ่งบอกได้ถึงความเป็นสมัยใหม่ รวมทั้งสามารถสร้างความหรูหราให้กับห้องได้ด้วย ด้วยรูปทรงที่ไม่ซับซ้อนและโทนสีที่เข้ากับที่ว่างภายในได้อย่างหลากหลาย บาร์เซโลนาแชร์จึงเป็นที่นิยมได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญเก้าอี้ตัวนี้ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในหลาย ๆ วงการด้วย
Chaise Longue
ออกแบบโดย Le Corbusier (ปี 1929)
นี่คือผลงานในปีถัดมาของเลอ กอร์บูซิเยร์ โดยสถาปนิกเอกแห่งฝรั่งเศสคนนี้ดีไซน์แบบให้รูปทรงออกมาดูคล้ายปีกเครื่องบินและประกอบด้วยโครงสร้างจากเหล็กท่อ อีกทั้งยังใช้หนังประกอบกับเก้าอี้นอนตัวนี้ด้วย เลอ กอร์บูซิเยร์ตั้งชื่อให้เก้าอี้ตัวนี้อีกชื่อว่า Relaxing Machine และต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของ Machine Age ในที่สุด
Brno Chair
ออกแบบโดย Mies Van Der Rohe (ปี 1929)
ช่วงปี 1929 มีส์ ฟาน เดอ โรห์สถาปนิกชาวดัตช์กำลังออกแบบบ้านของครอบครัว Tugendhats เขาได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ประกอบให้ด้วย โดยชิ้นหนึ่งในนั้นก็คือเบอร์โนแชร์ตัวนี้นั่นเอง โดยเขาใช้ชื่อเบอร์โนซึ่งเป็นชื่อเมือง ๆ หนึ่งในประเทศเชโกสโลวาเกีย (ในอดีต)
เบอร์โนแชร์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เป็นที่นิยมใช้ในภัตตาคารหรูหรา ด้วยรูปทรงโปร่ง เบาและบาง ประกอบกับการมีที่วางแขนที่แคบ ดีไซน์เหล่านี้จึงทำให้เข้ากันได้ดีกับการนำไปตกแต่งมุมห้องต่าง ๆ รวมทั้งสามารถจัดวางให้เข้าชุดกับชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ประกอบเซ็ทรับประทานอาหารซึ่งมีส์ ฟาน เดอ โรห์ออกแบบในเบื้องต้นด้วย
Diamond Chair
ออกแบบโดย Harry Bertoia (ปี 1950)
Diamond Chair เป็นเก้าอี้ที่พัฒนามาจากงานประติมากรรม โดยมีพนักพิงเป็นโครงเหล็กรูปตาข่าย ดูโปร่งสบาย ด้วยรูปแบบที่แปลกตาบวกกับความสวยงาม ดีไซเนอร์หลาย ๆ คนจึงมองว่างานดีไซน์ชิ้นนี้เป็นประติมากรรมมากกว่าเก้าอี้
อย่างไรก็ตามงานชิ้นนี้สร้างชื่อให้กับแฮร์รี แบร์โตญามาก หลังจากนั้นเขาจึงนำงานไปพัฒนารูปแบบจนเข้าสู่ 420 Chair, Large Diamond Chair, Bird Armchair and Ottoman ซึ่งเก้าอี้เหล่านี้ยังคงใช้โครงเหล็กรูปตาข่ายที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ Diamond Chair มาประกอบกันอย่างลงตัว
3107 Chair
ออกแบบโดย Arne Jacobson (ปี 1957)
อาร์เน ยาคอบสันสถาปนิกชื่อดังชาวเดนมาร์กคนนี้สร้างสรรค์งานในหลากหลายด้านตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงลวดลายบนผืนผ้าเลยทีเดียว และนี่คืออีก 1 ในผลงานชิ้นเอกของเขา โดยผลิตขึ้นมาจากไม้ Plywood ขึ้นรูปด้วยไม้ชิ้นเดียวประกอบกับโครงโลหะ มีการผลิตหลายรูปแบบและเป็นที่นิยมกันแบบสุด ๆ ในประเทศเดนมาร์ก
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย บริษัททีทีเอฟ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด
และ สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย
23/12/2005
DIY&LIFE STYLE