การวางแปลนครัวจึงแบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะ ตามขนาดและรูปร่างห้อง คือ
1. การจัดแบบตัวยู (U-SHAPED KITCHEN) เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่เหลือเฟือ ทั้งบ้านและครัวนี้ จึงมีความยืดหยุ่นมากที่สุด เพราะยังสามารถขยายพื้นที่ ของเคาน์เตอร์และชั้นเก็บของต่างๆได้
2. การจัดแบบตัวแอล (L-SHAPED KITCHEN) เป็นครัว ที่ใช้การได้ดีเช่นกัน สำหรับการทำงาน ในจุดทั้งสาม (เตา,อ่าง,ตู้เย็น) เหมาะกับห้อง ที่มีเนื้อที่ปานกลาง และเป็นบ้านโล่งๆ ที่ไม่มีการ กั้นแบ่งห้องทุกห้อง (OPEN PLAN)
3. การจัดแบบแถวยาวตามทางเดิน (CORRIDOR KITCHEN) เป็นครัวที่อยู่ในบริเวณ ที่ขนาบทางเดิน แคบๆ โดยมีทางเดินอยู่แนวกลาง ทุกๆอย่างในครัวนี้ จะอยู่ใกล้มือมาก จึงอำนวย ความสะดวกได้มากที่สุด
4. การจัดแบบแถวยาวตลอด (ONE WALL KITCHEN) เป็นครัวที่มีการจัดวางเป็นแบบแถวเดียวชิดผนังหมด การจัดครัวนั้นจำเป็นจะต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย เพราะจะช่วยให้รู้เรื่อง ถึงลักษณะการใช้ของครัว แต่ละแบบ และเพิ่มความมั่นใจ ในการเลือกแบบ แต่ละแบบ ให้เข้าได้กับสภาพพื้นที่ภายในบ้านที่มีอยู่ โดยให้คำนึงถึง ความสะดวกและความประหยัด ของพื้นที่ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ขณะประกอบอาหารได้มากที่สุด
การกำหนดแหล่งที่ตั้งของครัว
จะต้อง คำนึงถึง ปัญหาเรื่องการใช้งานเป็นหลักใหญ่ เพราะการใช้งาน เช่น การประกอบอาหารนั้น จะต้องเน้น เรื่องของความสะอาด ให้มาก และการรักษา ความสะอากที่ดี ย่อมต้องเกี่ยวข้อง กับตำแหน่งที่ตั้ง คือ ควรให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่อับชื้น มีทางเดินที่สะดวก ในการเดินเข้าครัว และที่สำคัญตำแหน่งของห้องครัว ไม่ควรอยู่ใกล้กับส่วนที่เป็นมุมพักผ่อน หรือมุมที่ต้องการความสงบ เพราะ อาจมีเสียงและกลิ่น ที่เกิดจากการประกอบอาหาร รบกวนได้ เมื่อสามารถ กำหนดบริเวณที่ตั้งของครัว และการจัดวาง เครื่องครัวได้แล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงต่อไป คือ
ความสว่าง แสงสว่าง เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับครัว ความสว่างตามธรรมชาติที่ได้จากหน้าต่าง นอกจากจะเป็นที่มาของแสงสว่างแล้ว ยังเป็นช่องระบายอากาศที่ดีอีกด้วย แต่ถ้าภายในครัวมีหน้าต่าง น้อยเกินไป ควรจุดติดไฟช่วย ในส่วนที่แสงไม่เพียงพอ เพราะในการประกอบอาหารนั้น จำเป็นต้องมีแสงสว่างมากพอ ที่จะมองเห็นได้ชัดเจน และทำงานได้สะดวก ดังนั้นจึงควรติดตั้งไฟ โดยใช้ไฟห้อยในพื้นที่ทำงานทุกจุด หรือจะติดไว้ตรงเพดานฝาผนัง เพื่อให้แสงไฟกระจายได้ทั่วห้อง การใช้เวลาในห้องครัวนานๆ นั้น ควรทำให้ครัวมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ดังนั้นแสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่าง จากหลอดไฟ หรือแสงตามธรรมชาติก็ตาม ควรพอเพียง การทาสีห้องโดยใช้สีอ่อนๆ จะช่วยให้ครัวสว่างและดูกว้างขึ้น
ระบบถ่ายเทอากาศ เมืองไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน การสร้างบ้าน จึงนิยมทำหน้าต่าง และช่องลมมาก ระบบหารถ่ายเท อากาศ จึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรนัก ห้องครัวที่โปร่งโล่ง จึงเป็นลักษณะของครัวที่น่าใช้ และทางที่ดีห้องครัว ควรจะติดหน้าต่างไว้หลายๆบาน เพื่อเปิดรับแสง ธรรมชาติ เพราะแดดยามบ่าย สามารถจะช่วย ฆ่าเชื้อโรค ไล่ความเปียกชื้น ความอับทึบให้กับครัวได้ แต่สำหรับครัวของสังคมเมืองหลวง วิธีนี้จะไม่สามารถ ถ่ายเทอากาศได้ และถ้าระบบการถ่ายเทอากาศไม่ดีพอ ก็จะทำให้เกิดกลิ่น อันไม่น่าภิรมย์ขึ้น ดังนั้นจึงต้องใช้วิธี ติดพัดลม ระบายอากาศเหนือเตา เพื่อดูดควันอาหาร ออกไปข้างนอก ช่วยลดกลิ่นต่างๆ หรือจะติด เครื่องดูดกลิ่น และควันที่ด้านบนของเตาได้
พื้นห้อง การประกอบอาหารในทุกวัน เราต้องยืน เดินไปมา ระหว่างทำอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งบางครั้งอาหาร อาจหล่นตกพื้น สร้างความเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนพื้นได้ การที่จะเลือกวัสดุ ประเภทใด มาปูพื้นนั้น ควรยึดหลัก ความทนทาน และทำความสะอาด ได้ง่ายเป็นหลัก เพราะห้องครัว เป็นห้อง ที่มีการ ใช้ความร้อนอยู่เป็นประจำ พื้นห้องจึงจำเป็น ต้องทนทาน ต่อความร้อนได้ดี และจะต้องไม่ลื่นหรือมีผิวมันจนเกินไปนัก พื้นครัวมีให้เลือก ทั้งที่เป็นพื้นกระเบื้อง พื้นหินขัด ซึ่งทนทาน ต่อการใช้งาน รักษาความสะอาดได้ง่าย แต่ค่อนข้างเย็น พื้นไม้ซึ่งให้ ความอบอุ่น สวยงาม แต่จะสกปรกง่าย หรือไวนิล ที่มีลวดลายสวยงาม การดูแลรักษาความสะอาด ทำได้ง่าย แต่ไวนิลนั้น จะชำรุดง่ายเช่นกัน
เพดาน เพดานนับว่าเป็นปราการป้องกันแดดฝน ซึ่งเป็นชั้นรองจากหลังคาจึงไม่ควรละเลย หรือมองข้ามความสำคัญไป การเลือกใช้วัสดุแผ่นเรียบโดยทั่วๆไป อันได้แก่ กระเบื้อง ไม้อัด ยิปซั่มบอร์ด วัสดุเหล่านี้เป็นวัสดุที่น่าใช้งานมากที่สุด และสิ่งที่สำคัญคือ เมื่อใช้หรือติดตั้งแล้ว ควรทาสีโทนอ่อน เพื่อช่วยให้ห้องดูสว่างขึ้น ผนัง ผนังมีความสำคัญพอๆ กับพื้น คือ ต้องทำความสะอาดได้ง่าย วัสดุที่ใช้ ควรเป็นจำพวกกระเบื้องเคลือบที่มีผิวไม่มันหรือด้านจนเกินไป ผนังที่ก่อด้วยอิฐฉาบปูนธรรมดา ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะก่อให้เกิดความสกปรกได้ง่ายและทำความสะอาดได้ยาก
การจัดวางแผนผังห้องครัว
ข้อสำคัญในการจัดวางแผนผังห้องครัวนั้น ก่อนอื่น จะต้องเลือก อุปกรณ์เครื่องใช้ ที่จำเป็นเสียก่อน เช่น เตา อ่างล้างมือ ตู้เย็น กระทะ จานชาม ฯลฯ เมื่อเลือกอุปกรณ์ ได้ตามความประสงค์แล้ว จากนั้น ให้วัดขนาดของห้อง แล้ววางผังห้องแบบย่อส่วน ต่อจากนั้นให้วัดขนาด ของอุปกรณ์ เครื่องใช้ที่เลือกไว้ โดยอาจคำนึงถึง หลักต่อไปนี้คือ
1. การวางเตา อ่างล้าง และตู้เย็น ควรวางให้อยู่ใกล้กัน เพื่อความคล่องตัวขณะปรุงอาหารยิ่งขึ้น
2. เคาน์เตอร์หรือโต๊ะวางเตา ควรเลือกให้มีความสูง ที่เหมาะสมคือ ประมาณ 900 ม.ม. หรือ 3 ฟุต แต่ถ้าจะวาง อ่างล้างควรเพิ่มให้สูงกว่านั้นอีก 75 ม.ม. หรือ 3 นิ้วควรให้มีที่ว่างข้างเตา เพื่อเตรียมไว้สำหรับวาง เครื่องประกอบอาหารและจานชามได้
3. การวางตู้เก็บของหรือภาชนะต่างๆ ควรกำหนดให้อยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ตู้เก็บกระทะ หม้อ หรือ ชั้นวางเครื่องปรุงต่างๆ ควรอยู่ใกล้เตา ตู้เก็บจานควรอยู่ใกล้อ่างล้าง เพื่อสะดวกในการเก็บเข้าที่ หรือหยิบใช้ได้สะดวก
4. ควรมีที่เสียบปลั๊ก สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้อย่างน้อย 2 แห่ง
การเลือกสรรอุปกรณ์ในครัว เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ไม่ควรมองข้าม และจะขาดเสียไม่ได้
โต๊ะประกอบอาหาร เป็นส่วนสำคัญ และใช้งานมากที่สุด ในการประกอบอาหาร จึงควรให้พื้นที่บริเวณนี้กว้างพอ สำหรับการจัดเตรียมอาหาร และวางอุปกรณ์ ส่วนด้านบนของโต๊ะ อาจปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สแตนเลส หินอ่อน ไม้หรือแผ่นเหล็กขนาดบางๆ ก็ได้ ที่เก็บของ อาจเป็นตู้เก็บหรือขวด สำหรับใส่ของแห้ง เพื่อป้องกันความชื้นในอากาศ สำหรับครัวที่แคบๆ อาจจะทำเป็นตู้ติดบานพับ เป็นการเพิ่มเนื้อที่ ใช้งานได้อีกด้วย
อ่างล้างมือ ควรเลือกชนิดที่มีบริเวณไว้สำหรับคว่ำจานชามด้วย อุปกรณ์ประกอบด้วย ได้แก่ ตะแกรงเศษผง เครื่องกรองก๊อกน้ำ ซึ่งมีทั้งแบบทำจากทองเหลือง หรือแบบชุบโครเมียม
เครื่องใช้ในครัว ปัจจุบันมีการออกแบบให้สวยงาม และน่าใช้มากขึ้น ซ้ำยังทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย ถ้าหากจะเลือกซื้อ เครื่องใช้ในครัว ควรเลือกขนาดที่เหมาะสม และใช้งาน ได้จริงๆ เช่น เตาและเตาอบ มีทั้งใช้เชื้อเพลิงชนิดแก๊ส ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่รวดเร็ว หรือจะเป็นแบบใช้ไฟฟ้า ที่เหมาะกับงาน ที่ต้องใช้เวลานานๆ
ตู้เย็น ปัจจุบันได้กลายเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่เข้ามา มีบทบาทต่อครัวมาก ซึ่งมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีคุณสมบัติเพิ่มมากขึ้น ในเครื่องหนึ่งๆ อาจมีทั้งเครื่องทำน้ำเย็น และที่ทำน้ำแข็งได้ เวลาที่จะเลือกซื้อ ไม่ควรเลือกสีฉูดฉาด และควรเลือกขนาด ให้เหมาะสม กับจำนวนคน ในครอบครัวด้วย
กระทะ มีด้วยกันหลายรูปแบบและชนิดที่ผลิต ให้เลือกได้ตามความต้องการ กระทะเหล็กเคลือบ เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ต้องใช้เวลานานๆ บนเตา กระทะที่ทำด้วยเหล็กสแตนเลส จะไม่ทำปฏิกิริยากับกรดหรือด่าง แต่อย่าใช้ไฟแรง ถ้าไม่ต้องการให้เปลืองน้ำมันเวลาทอด ก็ควรที่จะเลือกใช้ กระทะแบน
กาต้มน้ำ มีทั้งแบบโลหะที่ใช้งานได้ดีและประหยัดพลังงาน และแบบพลาสติก ที่ทนความร้อน
มีด ควรเลือกชนิดที่ดีๆ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน และควรเก็บ ให้มิดชิด เพื่อป้องกันอันตราย
เตาไมโครเวฟ สำหรับครัวสมัยนี้ เตาไมโครเวฟมีความสำคัญ และมีประโยชน์ในการใช้อุ่นอาหาร หรือประกอบอาหารได้ทั้งยาก-ง่าย เตาไมโครเวฟยังเป็นเครื่องที่ช่วยประหยัดเวลาในครัวได้ดี
อุปกรณ์ในครัว นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ยังมีอีกมากมายให้ได้เลือกใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เป็นหลักด้วย
เรียบเรียงข้อมูล @ ฟรีแปลน
2/9/2012
ห้องครัว / ทานอาหาร