| |
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
| B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
| |
 ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
| |
| I
ข่าวทั้งหมด I |
|
|
| 10-01-2559
: |
คอนโดฯหัวเมืองหงอยเหงา ปีนี้ซึมต่อ เชื่อส่งผลดีภาพรวมระยะยาว |
|
โดย ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
ภาพตลาดคอนโดมิเนียมพื้นที่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวตลอดปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมา เงียบเหงาโดยตลอด และยังส่งสัญญาณต่อเนื่องตลอดปี 2559 โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาหรือว่าภูเก็ตที่กำลังซื้อส่วนหนึ่งมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังคงเห็นภาวะตลาดคอนโดฯซบเซาอยู่ หรือเเม้เเต่เมืองขนาดใหญ่อย่างเชียงใหม่หรือว่าขอนแก่นที่ตกอยู่ในสภาพไม่แตกต่างกัน บางโครงการถึงขั้นต้องยกเลิกการขาย ยกเว้นเพียงแค่ในเขตพื้นที่เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ไม่ได้พึ่งพากำลังซื้อต่างชาติอย่างชะอำ หัวหินเท่านั้นที่ยังขายดี เนื่องจากเป็นตลาดคนไทย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้คอนโดฯในพื้นที่ต่างจังหวัดส่วนใหญ่ยังตกอยู่ในภาวะซบเซานั้น เพราะไม่มีปัจจัยอะไรมาหนุนตลาดคอนโดมิเนียมแบบในกรุงเทพมหานครที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าและราคาที่ดินที่สูงจนไม่สามารถพัฒนาบ้านจัดสรรได้ จะมีเพียงโครงการบ้านจัดสรรในต่างจังหวัดที่ราคายังไม่แพง แม้จะอยู่ไกลจากใจกลางเมืองแต่ก็สามารถเดินทางเข้ามาในเมืองได้โดยสะดวก
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายต้องแบกรับภาระในการซื้อคืนคอนโดมิเนียมจากกลุ่มผู้ซื้อที่จ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว แต่กลับไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะผู้ซื้อกลุ่มนี้ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้นจากใบจอง แต่ราคาไม่ได้ปรับขึ้นมากมายเหมือนที่คิดไว้ ขณะเดียวกันผู้ซื้อไม่สามารถขายใบจองที่ซื้อมาได้ก่อนถึงเวลาโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่อยากรับภาระในการโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป จึงเกิดการต่อรองกับผู้ประกอบการ แม้ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลเรื่องของการยกเว้นค่าจดจำนองและค่าโอนกรรมสิทธิ์ออกมาแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ซื้อบางส่วนที่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ เนื่องจากธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ หากแยกทำเลคอนโดมิเนียมต่างๆ ออกมาพิจารณานั้น สามารถสรุปได้ดังนี้
จ.เชียงใหม่ โดยใน อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่รวมแล้วราว 6,660 ยูนิต มีอัตราการขาย 60% ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 66,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขายที่เริ่มต้นตั้งแต่ 30,000-125,000 บาทต่อตารางเมตร แสดงให้เห็นว่ามีคอนโดมิเนียมที่ราคาขายมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรเปิดขายที่เชียงใหม่แล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต มีจำนวนมากที่สุดคือประมาณ 4,540 ยูนิต หรือประมาณ 68% ของยูนิตที่เปิดขายอยู่ทั้งหมดใน อ.เมืองเชียงใหม่
ขณะที่ จ.ขอนแก่น ในเขต อ.เมืองขอนแก่นเริ่มมีคอนโดมิเนียมเปิดขายมาได้ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ และขายได้พอสมควร แต่อาจจะไม่ได้คึกคักเหมือนเมืองท่องเที่ยวชายทะเลต่างๆ ในประเทศไทย โดย ณ สิ้นปีมีคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ประมาณ 1,310 ยูนิต ขายไปได้ประมาณ 75% ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 59,500 บาทต่อตารางเมตร
ชะอำ ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่มากมาย อีกทั้งยังมีโครงการสวนน้ำ คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความน่าสนใจให้กับชะอำอีกหลายแห่ง ทำให้ชะอำไม่ได้เป็นแค่ทางผ่านไปหัวหินเหมือนในอดีต ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ประมาณ 13,593 ยูนิต ขายไปได้ประมาณ 80% ถือว่าเป็นจำนวนค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นว่าได้รับความสนใจมาก โดยระดับราคาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิต ที่มีคอนโดมิเนียมระดับราคานี้เปิดขายประมาณ 8,131 ยูนิต และขายไปได้ประมาณ 81% ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในชะอำอยู่ที่ประมาณ 67,500 บาทต่อตารางเมตร
หัวหิน เมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมของคนไทยและชาวต่างชาติบางกลุ่มที่คุ้นเคยกับประเทศไทยระดับหนึ่งแล้วเท่านั้น ณ สิ้นปีมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ประมาณ 5,962 ยูนิต ขายไปได้ประมาณ 77% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 76,600 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันมีโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ รวมทั้งสวนน้ำเปิดให้บริการและสร้างความคึกคักให้กับหัวหินในช่วงสุดสัปดาห์หรือว่าวันหยุดยาว และยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการบ้านจัดสรรอีกมากมายที่เปิดขาย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหัวหินว่ายังมีแนวโน้มในการขยายตัวมากขึ้นอีกในอนาคต
พัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการหลบอากาศหนาวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เข้ามาเช่าหรือซื้อคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่รัสเซียประสบกับปัญหาค่าเงินอ่อนทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียหายไป และส่งผลต่อตลาดคอนโดมิเนียมจนถึงปัจจุบัน คอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่ในพัทยา ณ สิ้นปี พ.ศ.2558 มีอยู่ประมาณ 26,510 ยูนิต ขายไปได้ประมาณ 80% อาจจะค่อนข้างสูง แต่เพราะคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่เปิดขายกันมาก่อนหน้านี้หลายปีพอสมควร คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปีที่ผ่านมามีไม่มากนัก ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากการหายไปของนักท่องเที่ยวรัสเซีย แม้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาพัทยามากขึ้นก็ยังไม่สามารถเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทดแทนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียได้ในตลาดคอนโดมิเนียม แต่ผลกระทบหลักๆ คือ การที่มีโครงการเปิดขายมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพัทยาอยู่ที่ประมาณ 76,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขายตั้งแต่ประมาณ 25,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร
ขณะที่ จ.ภูเก็ต คอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่มีทั้งหมดประมาณ 21,331 ยูนิต ขายไปได้ประมาณ 80% ราคาขายเฉลี่ยใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียมในพัทยาคือ ประมาณ 76,500 บาทต่อตารางเมตร แม้ภูเก็ตจะประสบกับโครงการคอนโดมิเนียมมีจำนวนเปิดขายมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเขต อ.เมือง ที่ไกลจากทะเล ทำให้พื้นที่ส่วนนี้มียอดการขายช้าลง ส่วนทำเลที่ติดกับทะเลโดยเฉพาะทางทิศตะวันตกของเกาะ ยังคงขายได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะโครงการที่ราคาขายไม่สูงเกินไปและติดหรือไม่ไกลจากทะเล
เขาใหญ่ ถือเป็นตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องติดต่อกันหลายเดือนโดยเฉพาะในปี 2558 เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องของจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายมากเกินไป เช่นเดียวกับภูเก็ต แต่ความต้องการมีไม่มากนัก เพราะกำลังซื้อเกือบ 100% ในเขาใหญ่เป็นคนไทย ซึ่งพฤติกรรมของคนไทยอาจจะยังชอบเมืองชายทะเลมากกว่า โดย ณ สิ้นปี พ.ศ.2558 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ประมาณ 3,320 ยูนิต และขายไปได้ประมาณ 70% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 84,500 บาทต่อตารางเมตร ค่อนข้างสูงเพราะมีหลายโครงการที่เปิดขายมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร
แม้ว่าอัตราการขายในทุกทำเลของเมืองต่างๆ จะค่อนข้างสูง แต่เป็นเพราะว่าโครงการส่วนใหญ่เปิดขายมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ลดลงค่อนข้างมากในทุกทำเล โดยเฉพาะทำเลที่มีการเปิดขายมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น พัทยา เขาใหญ่ ขอนแก่น และเชียงใหม่ การที่ตลาดคอนโดมิเนียมในหัวเมืองต่างจังหวัดเหล่านี้ชะลอตัวลงน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมในระยะยาว เพราะทำให้การขยายตัวเป็นไปตามธรรมชาติ หรือการขยายตัวตามความต้องการมากกว่าเกิดจากการปั่นกระแสของผู้ประกอบการ และความต้องการในการเก็งกำไรของผู้ซื้อบางส่วนแบบที่ผ่านมา เพราะในต่างจังหวัดนั้นสามารถซื้อบ้านจัดสรรได้ในราคาเดียวกับคอนโดมิเนียม ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ยังคงต้องการเป็นเจ้าของบ้านมากกว่าห้องในตึกคอนโดมิเนียม
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 10-01-2559
|
|
|
| |
| |
|
|
![-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----](http://www.freesplans.com/image/freesplan_banner1.gif)
