|
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
|
ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
|
I
ข่าวทั้งหมด I |
|
26-04-2553
: |
เซ กิซุย ฮาล์ม ชินจูกุ เอ็กซิบิชั่น ศูนย์รับสร้างบ้านแนวใหม่สไตล์ญี่ปุ่น |
|
เป็นที่ยอมรับกันว่า ประเทศญี่ปุ่นคือเจ้าแห่งนักคิดนักประดิษฐ์ นอกจากรถยนต์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากยี่ห้อแล้ว "ระบบก่อสร้างบ้าน" ธุรกิจใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาในเมืองไทยไม่นาน ญี่ปุ่นก็ก้าวไปไกลอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง
ต่อ เนื่องจากทริปที่ "เซกิซุย เคมิคอล" และ "เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง" บริษัทลูกของเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ซึ่งร่วมทุนกันดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านในเมืองไทยมาระยะหนึ่ง ได้พาสื่อมวลชนและแขกวีไอพีบินลัดฟ้าไปญี่ปุ่น เพื่อดูกระบวนการผลิต "บ้านโมดูลาร์" (หล่อชิ้นมาประกอบ) ฉบับต้นตำรับ
ทริปนี้ทุกคนมี โอกาสแวะเยี่ยมชม "เซกิซุย ฮาล์ม ชินจูกุ เอ็กซิบิชั่น" (บ้านตัวอย่าง) ที่ตั้งอยู่ภายในโครงการ Home Builder Exhibition บริเวณใจกลางเมืองโตเกียวในย่านชินจูกุ
Home Builder Exhibition เกิดจากการรวมตัวกันของบริษัทปลูกสร้างบ้านในญี่ปุ่นกว่า 10 ราย ที่มาก่อสร้างสำนักงานขายในลักษณะ "บ้านตัวอย่าง" ไว้ภายในบริเวณเดียวกันในลักษณะเอ็กซิบิชั่น ทำให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลบริษัทรับสร้างบ้านได้หลายรายพร้อม ๆ กัน
บ้าน ตัวอย่างของ "เซกิซุย ฮาล์ม ชินจูกุ เอ็กซิบิชั่น" ออกแบบเป็นบ้าน 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น เปิดบริการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา มี "มาซามิชิ อิชิวาตาริ" เป็นผู้จัดการ คอยให้บริการลูกค้า
จากข้อมูล ที่ได้รับ เซกิซุยต้องสื่อ แนวคิดบ้านตัวอย่างให้เป็นบ้านสำหรับ "3 เจเนอเรชั่น" ชั้นล่างเป็นพื้นที่อยู่อาศัยสำหรับพ่อและแม่ ชั้นสองเป็นพื้นที่พักอาศัยสำหรับลูก ๆ ส่วนชั้นสามเป็น พื้นที่นั่งเล่นสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน โดยนำเทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านทั้งหมด ที่มีอยู่มาใส่ไว้แบบ "ฟูลออปชั่น"
โดย เฉพาะระบบ "แอร์แฟคทอรี่"หรือการสร้างระบบไหลเวียนอากาศที่ถูกเก็บซ่อนไว้ใต้พื้นบ้าน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านหลังนี้มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำเพียง 39% (ช่วงฤดูหนาว) เท่านั้น ดังนั้น เมื่อเข้าไปในบ้านสักพักก็จะรู้สึก แห้งและสบายตัว
กลไกการทำงานของระบบแอร์ แฟคทอรี่ถือว่าน่าสนใจ เพราะเมื่อรู้สึกว่าอากาศร้อน หรือขาดอากาศหายใจ โดยทั่วไปก็มักจะเปิดพัดลมระบายอากาศ แต่ระบบนี้มีกลไกซับซ้อนมากกว่านั้น
ขั้น ตอนแรกคือการนำอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านโดยผ่านฟิลเตอร์ (แผ่นกรอง) ถึง 3 ชั้น สามารถกรองฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ รวมถึงโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้อากาศที่ผ่านเข้าไปในบ้านมีความบริสุทธิ์เทียบเท่ากับเมือง "นากาโนะเคน" ที่ถือว่าอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น
ไม่เพียงแค่ นั้น อากาศทั้งหมดที่ถูก ดูดเข้าไปจะผ่านกระบวนการ "Heat Exchanging" วิธีการคือนำอากาศภายในบ้าน (ที่เปิดแอร์) เข้าไปผสมเพื่อปรับระดับอุณหภูมิให้พอเหมาะก่อนจะถูกปล่อยขึ้นไปตามช่อง ระบายอากาศที่ถูกออกแบบไว้บริเวณพื้นบ้าน อย่างกลมกลืนในทุกจุด
"เซ กิซุย" เคลมว่า การทำงานของระบบแอร์แฟคทอรี่จะเสียค่าไฟฟ้าเพียง 5 บาทต่อวันเท่านั้น !
นอกจากนี้ บ้านระบบโมดูลาร์ของ เซกิซุยยังใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ เข้ามาเสริม ได้แก่ 1) กระจกหน้าต่างนิรภัยแบบ 2 ชั้น มีช่องว่างตรงกลางเพื่อป้องกันอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน และ 2) การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้า แถมยังไฮเทคขนาดที่ว่ามีรีโมตและจอแสดงปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตและใช้ไปแล้ว
การ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น เพราะขนาดกำลังผลิต 4 กิโลวัตต์ มีราคาเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายช่วยอุดหนุนเงินค่าใช้จ่าย 20-30% ของทั้งหมด พร้อมทั้งรับซื้อคืนไฟฟ้าที่เหลือใช้อีกด้วย ขณะที่ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในไทยขนาด 2.5 กิโลวัตต์ จะมีราคากว่า 1 ล้านบาท
จากสถิติยังว่าในแต่ละปี "เซกิซุย"ปลูกสร้างบ้านให้ลูกค้าเฉลี่ย 20,000 หมื่นยูนิต หนึ่งในนั้นคือบ้านของ "Hiruma" ที่อยู่ในจังหวัดไซตะมะ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ เมืองโตเกียว
เจ้าของบ้านหลังนี้เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่เลือกเซกิซุยสร้างบ้านให้ ทั้ง ๆ ที่ในญี่ปุ่นมีบริษัทรับสร้างระบบโมดูลาร์หลายราย เพราะเป็นบริษัทเดียวที่สามารถสร้างบ้านได้ตามสเป็กที่ต้องการ โดยเฉพาะการออกแบบโรงรถ ซึ่งใช้เป็นที่จอดรถเบนซ์โดยไม่ต้องใช้คาน ซึ่งเป็นงานท้าทาย
ส่วนตัวบ้านมีขนาด 2 ชั้น พร้อมห้อง ใต้หลังคา มีพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ถึงแม้ราคาค่อนข้างสูง แต่เจ้าของก็ชอบบ้านหลังนี้มาก
ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า "บ้านหลังนี้ผมสร้างในราคา 50 ล้านเยน (ประมาณ 14.2 ล้านบาท) โดยรวมชอบมาก เพราะมีระบบไหลเวียนอากาศ อย่างภรรยาอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาแพ้เกสรดอกไม้อีกเลย ถ้ามีคนขอซื้อ เท่าไหร่ ผมก็ไม่ยอมขาย"
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 26-04-2553
|
|
|
|
|
|
|