| |
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
| B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
| |
 ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
| |
| I
ข่าวทั้งหมด I |
|
|
| 02-03-2552
: |
บีทีเอสเดินแต้มกินรวบสายสีเขียว พร้อมสุดสุดลงทุนแสนล้านแลกขยายสัมปทานเดิม |
|
" บีทีเอส" ร่อนหนังสือถึง กทม. ขอลงทุนเอง 100% ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวทุกเส้นทาง มูลค่าเกือบแสนล้านบาท ยื่นเงื่อนไขขอรวบทุกสายเป็นสัมปทานเดียวกับสายเดิม ขยายอายุสัมปทานเพิ่ม และให้ กทม.รับภาระค่าก่อสร้างก่อนช่วง 8 ปีแรก จากนั้นจะจ่ายคืนในปีที่ 9 ชงเรื่องมหาดไทยเสนอให้ ครม.ทบทวนมติเดิมที่ให้ รฟม. ก่อสร้าง
นาย สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) เสนอตัวลงทุนส่วนต่อขยายโครงการรถ ไฟฟ้าสายสีเขียวทุกเส้นทางที่ต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เปิดให้บริการ อยู่ขณะนี้ หลังจากทราบว่า กทม.จะขอรัฐบาลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเองทั้งหมด รูปแบบการลงทุนที่เสนอไปจะเหมือนกับ ที่เคยลงทุนบีทีเอส คือบริษัทจะหาเงินลงทุนเอง ทั้งงานโยธาและการเดินรถไฟฟ้า เพียงแต่เพิ่มเงื่อนไขให้ กทม.ช่วยผลักดันให้โครงการมีความเป็นไปได้ในแง่ของการลงทุนมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับ กทม.
"หากบริษัทเสนอตัวลงทุนจะทำให้การก่อ สร้างส่วนต่อขยายสายสีเขียวเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ไม่ต้องสร้างทีละเฟสเหมือนกับที่รัฐบาลจะทำ ซึ่งช้าและค่าโดยสารอาจแพงขึ้น แต่ถ้าดำเนินการเจ้าเดียว ทุกอย่างจะเป็นระบบเดียวกัน ผู้โดยสารสะดวก ค่าโดยสารจะถูกลง เพราะใช้ระบบตั๋วร่วม จะไม่มีค่าแรกเข้าระบบ"
สำหรับ เงินลงทุนทั้งหมดอาจต้องใช้เกือบ 1 แสนล้านบาท โดยเงินทุนส่วนหนึ่งจะระดมทุนจากผู้ถือหุ้น ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบางส่วนมาจากเงินกู้ ซึ่งบริษัทมีความสามารถที่จะดำเนินการ เพราะออกจากแผนฟื้นฟูแล้ว ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น หากได้ข้อยุติร่วมกันจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี เพราะต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่งยังมีเวลาหาเงินมาลงทุน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า หลังผู้บริหารอนุมัติให้ กทม.เสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 ที่ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เร็วๆ นี้จะทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาให้ กทม. ก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด ล่าสุดบีทีเอสซีก็เสนอตัวพร้อมลงทุนทั้งสายใหม่และสายที่กำลังก่อสร้าง โดยสายที่กำลังก่อสร้างอยู่ บีทีเอสจะจ่ายเงินค่าก่อสร้างให้ กทม.กว่า 1 หมื่นกว่าล้านบาท แต่มีเงื่อนไข คือ 1.ขอขยายสัมปทานสายเดิมที่เหลืออยู่ 20 ปี ออกไปอีกเป็น 60 ปี และรวมสายใหม่ที่ลงทุนเข้าเป็นสัมปทานเดียวกันกับสายเดิม 23.5 กิโลเมตร รวมทั้งหมดประมาณ 62 กิโลเมตร เพื่อจะได้เก็บค่าโดยสารเป็นระบบเดียวกัน
2. กทม.ต้องสนับสนุนงบประมาณค่า ก่อสร้างเบื้องต้นช่วง 8 ปีแรกโดยไม่มี ดอกเบี้ย เพราะบริษัทยังไม่มีรายได้เข้ามาเกรงว่าจะรับภาระหนัก จากนั้นบีทีเอสจะทยอยจ่ายคืนตั้งแต่ปีที่ 9 เป็นต้นไป คิดเป็นเงินประมาณ 50% ของค่าก่อสร้างงานโยธา หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กทม. จะใช้งบประมาณบางส่วนของ กทม.เอง และขอสนับสนุนจากรัฐบาลในสัดส่วน 60 : 40
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แนวเส้นทางที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษารายละเอียด คือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 36,603 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืนที่ดิน 2,388 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 18,723 ล้านบาท ค่างานระบบรถไฟฟ้า 14,156 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษา 1,316 ล้านบาท
ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 14 กิโลเมตร เงินลงทุน 28,110 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 675 ล้านบาท ค่างานโยธา 17,233 ล้านบาท ค่างานระบบรถไฟฟ้า 9,129 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษา 1,053 ล้านบาท อ่อนนุช-แบริ่ง 5.25 กิโลเมตร ช่วงสาทร-แยกตากสิน 2.2 กิโลเมตร และช่วงตากสิน-บางหว้า 5.3 กิโลเมตร
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 02-03-2552
|
|
|
| |
| |
|
|
![-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----](http://www.freesplans.com/image/freesplan_banner1.gif)
