Last Update 29 December, 2005         
 
     
s i n c e

1 5 J u n 2 0 0 2
 
                 
: : ก ลั บ ห น้ า แ ร ก : :   : : บ ริ ก า ร ข อ ง เ ร า  : :   : : แ บ บ ม า ต ร ฐ า น : :   : : ล ง น า ม ส มุ ด เ ยี่ ย ม : :   : : ติ ด ต่ อ เ ร า : :
B U D D Y H O M E " คู่ หู    คู่ บ้ า น ส ว ย "
 
     ข่ า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง
 
I ข่าวทั้งหมด I


 07-01-2552 : โอกาสทองของผู้ซื้อ ''บ้าน''

ท่ามกลางปัจจัยรุมเร้าเศรษฐกิจไทยรอบด้าน และต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคธุรกิจเกือบทุกเซ็กเตอร์ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ มียอดตัวเลขบ้านจดทะเบียนใหม่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปี 2550 มีบ้านจดทะเบียนใหม่เขตกทม.และปริมณฑล จำนวน 74,221 หน่วย ขณะที่ปี 2551 มีบ้านจดทะเบียนใหม่เพียง 56,690 หน่วย ลดลงไปกว่า 20%

อย่างไรก็ดีท่ามกลางวิกฤติดังกล่าว หากมองกลับกันในปี 2552 นี้กลับมีปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลากหลาย ทั้งเรื่องของอัตราดอกเบี้ย, ราคาน้ำมัน, วัสดุก่อสร้าง และแรงงาน มีทิศทางเกื้อหนุนต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง



ชูอสังหาฯขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้หากย้อนไปในปี 2540 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจหรือที่เรียกว่า "ต้มยำกุ้ง" รัฐบาลเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ใช้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการออกมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เข้ามาช่วย ได้แก่ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจากปกติเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 2 ของมูลค่าซื้อขาย ปรับลดลงเพียงร้อยละ 0.01 ค่าธรรมเนียมในการจดจำนองร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะจากปกติร้อยละ 3.3 เหลือร้อยละ 0.1 ซึ่งก็ส่งผลให้เศรษฐกิจในปี 2545 ฟื้นขึ้นทันตา!

ขณะเดียวกัน หลังจากรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาบริหารประเทศเมื่อช่วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้มาตรการเรื่องของภาษีเข้ามาแก้กระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2551 และไปสิ้นสุดในเดือนมี.ค. ปี 2552 แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากปัญหาเงินเฟ้อส่งผลให้ความสามารถในการซื้อบ้านของผู้บริโภคลดลงจนรัฐบาลสมัคร ต้องออก 6 มาตรการออกมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน!ของประชาชน

นอกจากนั้นแล้วจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศถึงขั้นที่มีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองซึ่งเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ ทำให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรีบออกมาตรการต่างๆ มาฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วนซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการใช้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพราะเคยใช้ได้ผลดีมาแล้วทุกครั้ง

ปีทองของคนยากมีบ้าน

ดังนั้นในปี 2552 จึงถือเป็นช่วงจังหวะที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยจะมีมาตรการต่างๆ เข้ามาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริโภค อย่างแรกคือการต่ออายุมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการซื้อขายบ้านออกไปอีก 1 ปี จากรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช) โดยจะมีระยะเวลาได้รับสิทธิ์จนถึงเดือนมีนาคม 2553 ซึ่งก็จะช่วยให้ผู้บริโภคที่ซื้อบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายในการโอนและจดจำนองลงไปรวมกันเหลือร้อยละ 0.02 จากเดิมที่ต้องเสียประมาณร้อยละ 2

ประการที่สองจากปัญหาวิกฤติการส่งออกและท่องเที่ยวของไทยจากการปิดสนามบิน ผนวกกับมรสุมการเงินโลกลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเข้ามาในปี 52 ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องใช้ยาแรงด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์/พี) ลง 1% จากที่ก่อนหน้านี้หากจะมีการปรับลดลงก็เพียง 0.25 ต่อครั้งเท่านั้นเพราะกลัวว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะถึงกับเข้าขั้นโคม่า และก็มีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยอาร์/พีในปีหน้าอาจจะลดลงอีกเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยลงตามซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านให้กับผู้บริโภคและมีสภาพคล่องในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น



ปชป.ต่อยอดมาตรการกระตุ้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีนโยบายกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยผู้บริโภคที่ซื้อบ้านใหม่ในปี 2552 จะสามารถนำภาระดอกเบี้ยจากการผ่อนชำระบ้านมาหักลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นจากเดิมที่กรมสรรพากรให้นำมาหักได้วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีเพิ่มเป็นมากกว่า 200,000 บาทต่อปี โดยเน้นไปที่บ้านราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาทลงมา และได้สั่งการให้ธนาคารของรัฐทุกแห่งเตรียมปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการมากขึ้นซึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าภาครัฐเข้าใจความสำคัญของธุรกิจอสังหาฯ นอกจากนี้ ผลจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงมามาก ยังทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างของผู้ประกอบการอสังหาฯต่ำลงกว่าในปี 2551

โดยนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะได้ซื้อบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในตลาดแทบจะไม่ได้เห็นราคาบ้านเดี่ยว 2 ชั้นราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทเลย นอกจากนั้นแล้ว ผู้บริโภคยังได้รับของแถมและส่วนลดต่างๆ มากมายจากการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งหากเป็นช่วงที่ดีมานด์มากกว่าซัพพลาย แคมเปญโปรโมชันต่างๆ เหล่านี้แทบจะไม่เห็นกันเลย

สำหรับอาคารชุดนั้นในปีหน้าจะมีห้องชุดที่นำกลับมารีเซลล์ใหม่อีกครั้ง เชื่อว่าหากเป็นทำเลที่ไม่ได้อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อนำกลับมาขายอีกครั้งจะมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อตอนเปิดตัวขายในครั้งแรก ส่วนโครงการใหม่ก็มีแนวโน้มราคาห้องชุดจะถูกลงเพราะต้นทุนค่าก่อสร้างที่ลดลงตามราคาน้ำมัน โดยห้องชุดของศุภาลัยที่จะออกสู่ตลาดในปีหน้าก็จะถูกกว่าปี 2551 ประมาณ 5-10%

ขณะที่นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทยกล่าวว่า ทาง 3 สมาคมบ้านอันประกอบไปด้วยสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย จะเข้าไปพบกับรองนายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เพื่อเข้าไปเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องการใช้อัตราดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ภาคอสังหาฯ ฟื้นทั้งระบบ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคด้วย

ทั้งนี้ ผู้บริโภคหลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลต้องใช้ธุรกิจอสังหาฯเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เป็นเช่นนี้เพราะธุรกิจอสังหาฯ มีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าอื่นๆ มากมาย เช่น เมื่อมีการซื้อบ้านก็ต้องมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน มีการบริโภคอิฐ หิน ดิน ทราย ปูนซีเมนต์ เหล็ก สุขภัณฑ์ สี เพื่อใช้ในการก่อสร้างและก่อให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามมา เมื่อประชาชนมีงานทำมีรายได้ก็กลับกลายมาเป็นเม็ดเงินในการอุปโภคบริโภคกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอีกที

อย่างไรก็ดี สำหรับทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2552 หากรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและฟื้นความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่ธุรกิจอสังหาฯต้องประสบกับภาวะวิกฤติกำลังซื้อชะลอตัวอย่างแน่นอนแต่จะแย่หรือดีกว่าปี 2540 หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลซึ่งก็ได้แต่หวังว่าให้ปัญหาการเมืองภายในประเทศจะนิ่งเสียที!!!

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ  07-01-2552 
 

 
 
     Buddy _ L i n k S . . .
 
 
ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง 1
ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง 2
ร้อยพัน ปัญหาในงานก่อสร้าง 3
ร้อยพัน ปัญหาในงานก่อสร้าง 4 ฉบับหมอบ้าน
กฎหมายคลายเส้น
กฎหมาย อ่านง่าย
กฏหมายคลายเส้น บ้านแถว ห้องแถว ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด
 
 
 
-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----
ศูนย์รวมแบบบ้านมากกว่า 100 แบบ
Tips-Technic การแต่งบ้าน
และอื่นๆอีกมากมาย
 
แลกลิงค์แบนเนอร์ขนาด 88x31 ดู Source Code ข้างล่างครับ
 
<a href="http://www.buddy-home.com" target="_blank"> <img src="http://www.buddy-home.com/image/bannerBuddy-home.gif" border="0" width="88" height="31" alt="www.buddy-home.com คู่ หู คู่ บ้ า น ส ว ย "></a>

www.buddy-home.com  คู่ หู  คู่ บ้ า น ส ว ย

ช่วยเมล์กลับมาแจ้งที่ webmaster@buddy-home.com
 
 
 
 
                 
: : ก ลั บ ห น้ า แ ร ก : :   : : บ ริ ก า ร ข อ ง เ ร า  : :   : : แ บ บ ม า ต ร ฐ า น : :   : : ล ง น า ม ส มุ ด เ ยี่ ย ม : :   : : ติ ด ต่ อ เ ร า : :
                 
ขั้นตอนการเริ่มต้นมีบ้าน
  ความรู้...การประหยัดพลังงาน
ความรู้...งานระบบของบ้าน
  ความรู้...การตกแต่งภายใน
  ความรู้...การจัดสวน
  ออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน
  การออกแบบห้องต่างๆภายในบ้าน
  ประเภทของชุดครัว
  100 เคล็คลับคู่บ้าน
  Download สัญญาสำเร็จรูป
  Download แบบฟอร์มอนุญาต
   
   : : g o t o To p : :