| |
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
| B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
| |
 ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
| |
| I
ข่าวทั้งหมด I |
|
|
| 15-05-2551
: |
ประชันนวัตกรรม "บ้านไม้" เน้นสร้างไว สไตล์รีสอร์ต |
|
ยังคงได้รับความสนใจเหมือน เช่นทุกปี สำหรับนวัตกรรม "บ้านไม้" ที่แต่ละบริษัทลงทุนสร้างบ้านจำลองมาไว้ในงานสถาปนิก"51 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ
อาจเป็นเพราะคนไทยคุ้นเคยกับบ้านไม้มานาน การตัดสินใจสร้างบ้านแบบนี้สักหลังจึงไม่ใช่เรื่องยาก งานปีนี้มีให้เลือกชมหลากหลายรูปแบบ ทั้งบ้านไม้ธรรมชาติ ทั้งหลัง และแบบลูกผสม
อาจติดอยู่ที่การลงทุนก่อสร้างบ้านไม้ต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างสูง เนื่องจากเวลานี้ไม้มีราคาแพงและหาได้ยาก กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อบ้านไม้ส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มระดับกลางขึ้นไปจนถึงระดับบน และลูกค้า โครงการประเภทรีสอร์ทตามหัวเมือง ท่องเที่ยวหลักๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่จับลูกค้านักท่องเที่ยวระดับ ต่างชาติ
ที่แวะชมเป็นหลังแรกคือ "บ้านไม้ยางพารา" ของ บริษัท เวิลด์รับเบอร์วูดซิสเต็ม จำกัด สร้างด้วยไม้ยางอัดน้ำยากันปลวก ทั้งหลัง พร้อมการรับประกันนาน 25 ปี
แบบบ้านมีให้เลือกทั้งแบบชั้นเดียวจำนวน 5 แบบ และบ้าน 2 ชั้นอีก 2 แบบ ราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 1.8 หมื่นบาท ยกเว้นลูกค้าจองในงานลดเหลือ ตร.ม.ละประมาณ 1.2 หมื่นบาทเท่านั้น
สำหรับบ้านตัวอย่างที่นำมาโชว์เป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาด 98 ตร.ม. ราคาจองหลังงาน 1.8 ล้านบาท (รวมสุขภัณฑ์และระบบไฟฟ้า) สอบถามจากพนักงานประจำบูทบอกว่าบ้านรุ่นนี้ใช้เวลาผลิตประมาณ 3-4 เดือน และใช้เวลาประกอบหน้างานไม่เกิน 7 วัน แต่ไม่รวมงานก่อสร้างฐานราก
ถัดมาเป็น "บ้านไม้สนนิวซีแลนด์" ของบริษัท ทิมเบอร์ลอดจ์ ล็อก โฮมส์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณกลางงาน มองผิวเผินเหมือนเป็นบ้านไม้ที่สร้างจากต้นซุงขนาดใหญ่ เพราะเจ้าของบริษัท "Dale Ryan" ซึ่งเป็นชาวอเมริกันสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นด้วยเทคโนโลยีของตัวเอง พร้อมอัดน้ำยาป้องกันปลวก ในประเทศอเมริกามีการก่อสร้างบ้านลักษณะนี้มานานกว่า 50 ปีแล้ว
ตัวผนังประกอบด้วยวัสดุ 2 ชั้น คือ แผ่นโฟมที่ถูกปิดผิวด้วยไม้สนนิวซีแลนด์ รวมความหนาถึง 14 นิ้ว เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นฉนวนป้องกันความร้อนและกักเก็บความเย็น ส่วนหลังคาเป็นแบบหลังคาเหล็ก แต่ถ้าลูกค้ามีงบประมาณเพียงพอก็สามารถเปลี่ยนเป็นหลังคาไม้ได้
เบื้องต้นมีบ้านให้เลือก 3 แบบ คือ 1)แบบ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 67.5 ตร.ม. ราคา 1.58 ล้านบาท หรือ ตร.ม.ละ 2.3 หมื่นบาทเศษ 2)แบบ 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 135 ตร.ม. ราคา 2.88 ล้านบาท หรือ ตร.ม.ละ 2.1 หมื่นบาทเศษ และ 3) แบบ 1 ชั้นครึ่ง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60 ตร.ม. ราคา 9 แสนบาท หรือ ตร.ม.ละ 1.5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นบ้านตัวอย่างที่นำมาจัดแสดงและ ใช้เวลาประกอบไม่เกิน 8 ชั่วโมง
หลังสุดท้ายเป็น "บ้านไม้ลูกผสม" ของบริษัท ไพร์ซ ออฟ วู้ด อินดรัสทรีส์ จำกัด ที่ต่อยอดจากธุรกิจแปรรูปมาสร้างบ้านไม้ภายใต้คอนเซ็ปต์ "S ยกกำลัง 5" คือ speed (รวดเร็ว) save (ประหยัด) sanctuary (ผ่อนคลาย) science (หลักวิทยาศาสตร์) และ strong (แข็งแรง) และสามารถติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ที่บอกว่าเป็นบ้านไม้ลูกผสมเพราะเป็นความตั้งใจของบริษัทที่นำไม้สักมาใช้ในงานโครงสร้าง หลังคา พื้น และใช้ยิปซัมสำหรับงานผนัง เพื่อให้รูปแบบบ้านเป็นแนวโมเดิร์นผสมผสานกับแนวรีสอร์ต ฯลฯ และอัดน้ำยาป้องกันปลวกรับประกันนาน 25 ปีเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะไม้ปูพื้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่บริษัทพัฒนาขึ้น เป็นไม้ปูพื้นแบบ เอ็นจิเนียร์ฟลอร์รุ่น "ชาเลตต์ สตรักเจอรอล เอ็นจิเนียร์ ฟลอริ่ง" ที่มีความหนา 6.5 ซ.ม. ซึ่งหนากว่าพื้นไม้ทั่วไปในตลาด รวมถึงมีความกว้างถึง 27 ซ.ม. ยาว 100 ซ.ม. ช่วยลดรอยต่อ และผ่านกระบวนการลดความชื้นในเนื้อไม้ช่วยป้องกันการยืดหดตัว
เบื้องต้นเคาะราคาเฉลี่ยสำหรับบ้านที่สร้างด้วยไม้สัก 2.8 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. และสร้างด้วยไม้เต็งหรือไม้ยาง 2.3-2.5 หมื่นต่อ ตร.ม. โดยก่อสร้างตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้
ทำให้บ้านไม้กลายเป็นอีกหนึ่งสินค้ามาแรงในงานสถาปนิกปีนี้
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 15-05-2551
|
|
|
| |
| |
|
|
![-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----](http://www.freesplans.com/image/freesplan_banner1.gif)
