| |
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
| B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
| |
 ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
| |
| I
ข่าวทั้งหมด I |
|
|
| 25-10-2550
: |
คมนาคมโชว์ผลงาน 1 ปี ชิ้นโบแดง "รถไฟฟ้า 3 สาย" ทะลุเป้า |
|
ก่อนหมดวาระของรัฐบาล "ขิงแก่" ปลายปีนี้ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา "พลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กับ "สรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยึดหอประชุมสโมสรกองทัพเรือ เปิดแถลงผลงานครบ 1 ปี ที่กำกับดูแลกระทรวงนี้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามานั่งเก้าอี้เมื่อเดือนตุลาคม 2549 จนถึงเดือนกันยายน 2550
2 บิ๊กกระทรวงหูกวางบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผลงานที่ทำได้เป็นไปตามเป้าที่เคยประกาศไว้ ที่โดดเด่นและเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือรถไฟฟ้า 3 สาย ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว คิดเป็นมูลค่า 96,931 ล้านบาท
ประกอบด้วยสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 8,478 ล้านบาท ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังประกวดราคา
สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 31,217 ล้านบาท และ ค่าจ้างที่ปรึกษาอีกจำนวน 1,248 ล้านบาท ปัจจุบันรอตรวจสอบความชัดเจนเรื่องเงินค่าชดเชยการเวนคืนที่ดิน ก่อนที่จะประกาศขายแบบเดือนพฤศจิกายนนี้ เปิดประกวดราคาได้เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2551
และสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 59,888 ล้านบาท ซึ่งปลายปีนี้แบบรายละเอียดจะแล้วเสร็จ และการรถไฟฯจะประกาศขายแบบได้เดือนเมษายน ยื่นซองเดือนพฤษภาคม และก่อสร้างได้เดือนตุลาคม 2551
"กว่าจะได้ 3 สายไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ผ่านมาเราทำงานกันมาตลอด แต่อาจจะล่าช้าไปบ้าง เพระมีปัญหามากมาย แต่ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่เคยพูดไว้ว่าจะผลักดันรถไฟฟ้าให้ได้ 3 สายภายในรัฐบาลชุดนี้ ส่วนที่เหลือก็กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งสายสีน้ำเงินและสีเขียวซึ่งต้องฝากให้รัฐบาลชุดต่อไปเป็นผู้สานงานต่อ ก็จะเห็นเป็นรูปธรรม เพื่อให้โครงการเกิดให้ได้ภายใน 3-4 ปี เราเพียงแค่เตรียมความพร้อมไว้ให้เท่านั้น"
สำหรับความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27
กิโลเมตร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด จัดทำเอกสารประกวดราคา ศึกษาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม.ต่อไป นอกจากนี้ได้ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดราคาเบื้องต้น
ส่วนสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานนโยบายและแผนการ ขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างดำเนินการ จัดทำแบบรายละเอียดและศึกษาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2535 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อนำเสนอ ครม.อนุมัติ ส่วนการออกแบบ จะเสร็จประมาณต้นปี 2551 สายสีแดงช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก สนข.กำลังออกแบบรายละเอียด จะแล้วเสร็จเดือนมกราคม 2551
(ดูตาราง)
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟทางคู่จากฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง วงเงินก่อสร้าง 5,235 ล้านบาท การรถไฟฯอยู่ระหว่างประกวดราคา และโครงการสร้างรถไฟทางคู่เพื่อรับกับระบบโลจิสติกส์ สายขอนแก่น-โคราช-แหลมฉบัง การสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 เป็นต้น
"ระยะเวลาที่เหลือ 2 เดือนเศษ ซึ่งเหลืออยู่ไม่มาก จะสานงานเร่งด่วนที่ยังไม่เสร็จเต็ม 100% เช่น สถานีบางซื่อ ค่าก่อสร้าง 20,000 ล้านบาท จะพยายามแยกออกมาเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาก่อนปลายปีนี้ เพื่อเป็นสถานีร่วมรองรับกับระบบอื่นๆ"
รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่ยังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้และยังเคลียร์ไม่เสร็จ 100% เหมือนกัน ภายใน 1 เดือนนี้จะทำความชัดเจนส่วนที่เหลือทั้งหมด ก่อนที่รัฐบาลจะครบวาระ เพื่อส่งลูกให้รัฐบาลชุดต่อไป ทั้งเรื่องการต่อขยายเวลาก่อสร้าง การหาแหล่งเงินกู้ที่ต้องเสนอ ครม.ใหม่ การบริหารโครงการ ฯลฯ
"ส่วนปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ผ่านมาเราแก้ไขมาตลอด ทั้งเรื่องการก่อสร้างที่ไม่สมบูรณ์แบบ ห้องน้ำไม่พอ ปัญหามลพิษทางเสียง เป็นต้น แต่ไม่ได้ดั่งใจ อะไรที่เราทำได้ ทำทันที รัฐบาลใหม่จะสานต่อยังไง เป็นสิทธิของรัฐบาลใหม่ เพราะการแก้ปัญหาคงไม่เสร็จภายในปีเดียว ต้องใช้เวลา โดยเฉพาะเรื่องมลพิษทางเสียง"
ด้านการดำเนินการที่ดินเซ็นทรัล ลาดพร้าว กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาในการต่อสัญญาด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยการรถไฟฯได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา 2 บริษัท คือ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ จำกัด เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อประเมินผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับการรถไฟฯ จะครบกำหนดสิ้นเดือนตุลาคมนี้
งานพัฒนาระบบการเดินทางเชื่อมต่อหรือ ระบบตั๋วร่วม ใกล้จะเป็นรูปธรรม คมนาคมได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กระทรวงการคลัง กทม. ร.ฟ.ท. รฟม. ขสมก. รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อพิจารณารูปแบบและแผนงานระบบ ตั๋วร่วมที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งในเบื้องต้น อาจจะเชื่อม 2 ระบบ คือ รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินเข้าด้วยกันก่อน จากนั้นถึงจะพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต
นี่คือผลงานชิ้นสำคัญในห้วงเวลา 1 ปี ของ 2 รัฐมนตรี "ธีระ-สรรเสริญ" ที่วางกรอบและมาตรฐานไว้ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อการเมืองผลัดใบ มีรัฐบาลใหม่เข้ามา อะไรๆ ที่ทำไว้นี้จะถูกรื้อหรือสานต่อ เพราะยังมีโครงการใหญ่งบฯก้อนโตรออนุมัติอีกหลายโครงการ
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 25-10-2550
|
|
|
| |
| |
|
|
![-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----](http://www.freesplans.com/image/freesplan_banner1.gif)
