|
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
|
ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
|
I
ข่าวทั้งหมด I |
|
18-10-2550
: |
"คอตโต้" เซตเทรนด์ ปี"08 ชู "Sub-Society" ย้ำผู้นำตลาดกระเบื้อง |
|
การกำหนดวิชั่นของตัวองค์กรที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดกระเบื้องโลกภายในปี 2010 (พ.ศ. 2553) วันนี้ "คอตโต้" จึงต้องเร่งสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ ด้วยการเป็น "เทรนด์เซตเตอร์" หรือเป็นผู้กำหนดเทรนด์กระเบื้อง
ที่ผ่านมาคอตโต้ได้ศึกษาไลฟ์สไตล์คน แฟชั่น และวัฒนธรรมทั่วโลก เพื่อนำมาผ่านกระบวนการ "ถอดรหัส" แปลงเป็นกระเบื้องลวดลายใหม่ๆ แบบปีต่อปี
โดยปี 2005 หรือ 2 ปีก่อนนับเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตกระเบื้องรายนี้เริ่มเซตเทรนด์ขึ้นภายใต้ธีม "Serenity" (พักผ่อน) ซึ่งเกิดจากการศึกษาและพบว่าผู้คนมีแนวโน้มต้องการพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายสังคมมากขึ้น และหนึ่งในกระเบื้องที่เป็นไฮไลต์ของปีนั้นคือ "Fiorina" (ฟิออรินา) กระเบื้องแก้วที่มีกลิ่นหอม
ขณะที่ในปี 2006 ได้ต่อยอดการเซตเทรนด์ภายใต้ธีม "My Style_My Self" (สไตล์เฉพาะตัว) ไฮไลต์ อาทิ กระเบื้องรุ่น Pastela
(พาสเทล่า) ที่เลียนแบบลวดลายไม้
กระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคอตโต้ได้จัดกิจกรรมโปรโมตเทรนด์ปี 2008 โดยมี 3 ดีไซเนอร์ "เทวินทร์ วรรณะบำรุง" ดีไซเนอร์ไดเร็กเตอร์ของกระเบื้องคอตโต้
"สรรพางค์เอี่ยม เกียงไกร" ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของสุขภัณฑ์คอตโต้ และ "สมนึก กมลเสวีกุล" ผู้จัดการเซ็กชั่นออกแบบของก๊อกน้ำคอตโต้ มาร่วมกันให้ข้อมูล
โดยวิเคราะห์ว่าเทรนด์ในปีหน้าจะเป็นกระแสของ "sub-society" (สังคมกลุ่มย่อย) ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบคล้ายๆ กัน และแบ่งแยกออกได้เป็น 4 กลุ่มคือ
1) teatime เป็นกลุ่มคนที่รักความสงบ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ลวดลายและสีสันกระเบื้องจะเป็นแนวเอิร์ทโทน เรียบง่าย อาทิ สีเบจ ครีม น้ำตาลอ่อน ฯลฯ ส่วนวัสดุที่นำมาตกแต่งลวดลายจะมาจากธรรมชาติเป็นหลัก 2) local festival เป็นกลุ่มคนที่ชอบความรื่นเริงในงานเทศกาลท้องถิ่น กระเบื้องแนวนี้จะใช้วัสดุท้องถิ่นมาเล่นลวดลาย อาทิ ใบไม้ เปลือกหอย ฯลฯ
3) club culture เป็นกลุ่มคนวัยทำงานและนิยมมาพบปะพูดคุยกันในคลับ สไตล์ของกระเบื้องเป็นการนำสิ่งที่ขัดแย้งมาทำให้กลมกลืนเข้ากันได้ อาทิ กระเบื้องที่ผสมผสานระหว่างสีโทนร้อน-โทนเย็นไว้ด้วยกัน การนำลวดลายที่มีเอกลัษณ์ความเป็นตะวันออกกับตะวันตก ฯลฯ
และ 4) disco party เป็นกลุ่มคนวัยรุ่นที่มีพลัง ชอบความทันสมัย แนวกระเบื้องจะเน้นสีสันฉูดฉาด อาทิ ส้ม เหลือง แดง ฯลฯ
โดยเทรนด์ปี 2008 จะถูกแปลงเป็นกระเบื้องลวดลายใหม่ๆ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในงานสถาปนิก"51 ซึ่งปีนี้คอตโต้ได้เริ่มจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่เทรนด์ให้กับผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รับทราบ อาทิ เสื้อผ้า โคมไฟ ฯลฯ เพื่อให้เทรนด์ดังกล่าวเป็นแมสมากขึ้น
"หลังจากปีที่ผ่านมาเรานำร่องใช้เทรนด์เป็นตัวกำหนดรูปแบบการผลิตสินค้าในกลุ่มกระเบื้อง สุขภัณฑ์ และหลังคา ให้ไปในแนวทางเดียวกัน ปีนี้เราเผยแพร่เทรนด์ไปสู่วงการแฟชั่นภายนอกเพื่อกระจายในวงกว้าง" ปริญญา สายน้ำทิพย์ กรรมการผู้จัดการของกระเบื้องคอตโต้ให้รายละเอียด
อย่างไรก็ตามในเชิงการผลิตสินค้า เทรนด์กระเบื้อง 4 กลุ่มย่อย อาจถูกหยิบมาใช้เพียงบางกลุ่มเท่านั้น อาทิ กระเบื้องสีเอิร์ทโทนที่อยู่ในเทรนด์กลุ่ม teatime ซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยในปีหน้าจะมีการผลิตกระเบื้องใหม่ 10-15 ซีรีส์เท่านั้น เนื่องจากรสนิยมการเลือกซื้อกระเบื้องของตลาดในประเทศและต่างประเทศค่อนข้างแตกต่างกัน
ปัจจุบันคอตโต้มีสัดส่วนส่งออก 40% และขายในประเทศ 60% ส่วนปีหน้าอาจจะปรับเพิ่มสัดส่วนส่งออกขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากมองว่าภาพรวมตลาดกระเบื้องในประเทศน่าจะซบเซาต่อเนื่อง จากปีนี้ที่ประเมินว่าน่าจะหดตัวลง 7-8%
สำหรับสถานการณ์ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาคอตโต้มียอดขายแล้ว 4,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2% แยกเป็นตลาดในประเทศ 2,800 ล้านบาท และส่งออก 1,700 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 6,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเป้าหมายการขายในปีหน้าที่วางไว้ถือเป็นความท้าทายไม่น้อย เพราะตั้งเป้ามียอดขายเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% หรือ 7,000 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์หลัก 2 ส่วนคือ
1) ขยายตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง ได้แก่ บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน ฯลฯ และ 2) ขยายช่องทางบริการแบบวันสต็อปเซอร์วิส "คอตโต้ ไทล์ สตูดิโอ" ภายในร้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ทต่อเนื่อง
พร้อมทั้งมีบริการเสริมใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวต่อเนื่องเพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้า
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 18-10-2550
|
|
|
|
|
|
|