|
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
|
ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
|
I
ข่าวทั้งหมด I |
|
18-10-2550
: |
"อภิรักษ์" ขันนอต BTS ฝั่งธนฯ การันตีเปิดใช้ปลายปีหน้า |
|
นับวันเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-แยกถนนตากสิน ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร เริ่มหนาหูขึ้นทุกวัน ยิ่งใกล้ครบวาระบริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ครบ 4 ปี ที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคม 2551 ผู้ว่าฯ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" ก็ยิ่งมีแรงกดดันเพิ่มเป็นทวีคูณ
เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จนย่างเข้าสู่ปีที่ 4 โครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสทำได้แค่วางรางและก่อสร้างสถานีเท่านั้น ส่วนการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณซึ่งกว่าจะลงตัวว่าใช้ระบบของ "บอมบาดิเอร์" ก็ใช้เวลาเป็นปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เริ่มติดตั้ง ทำให้ส่วนต่อขยายบีทีเอส ระยะทางสั้นๆ แค่ 2.2 กิโลเมตร ล่าช้ากว่าแผนเป็นปีๆ
ว่ากันว่า ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริหาร กทม.ในระดับนโยบายและฝ่ายปฏิบัติไม่ค่อยจะลงรอยกัน ขณะที่อีกกระแสมองว่า "อภิรักษ์" มุ่งเน้นโปรโมตงานด้านสิ่งแวดล้อมมากเกินไปจนลืมโครงการนี้
ล่าสุด ผู้ว่าฯ กทม.จึงต้องออกแรงขันนอตเพิ่ม พร้อมกับยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้ละเลยกับที่หลายคนเข้าใจ
"ก่อนหมดวาระผมจะเร่งผลักดันเปิดทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-แยกถนนตากสินให้ได้ โดยตั้งเป้าทดลองให้บริการประมาณเดือนกันยายนปีหน้า จากนั้นจะเปิดให้บริการจริงในเดือนตุลาคม"
"อภิรักษ์" บอกว่า ความก้าวหน้าของโครงการ ขณะนี้ผลงานโดยรวมมี 99.32% แล้ว เป็นงานสถานี 98.89% งานวางราง 99.90% ช้ากว่าแผนแค่ 0.68% เนื่องจากยังเหลืองานในส่วนของการวางระบบราง ซึ่งเพิ่งได้บริษัท ผู้รับจ้าง คือ บริษัทบอมบาดิเอร์ วงเงิน 390 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้สิ้นเดือนตุลาคมนี้ ใช้เวลาติดตั้งประมาณ 10 เดือน
ด้านรายละเอียดของงานก่อสร้างของทั้ง 2 สถานี คือ สถานีเจริญนคร และสถานีวงเวียนใหญ่ การติดตั้งห้องต่างๆ ในสถานีทำได้ 96.57% โครงหลังคาพร้อมแผ่นมุง 100% บันไดเหล็กสถานี 20 แห่ง ทำได้ 100% งาน ปูพื้นด้วยวัสดุตกแต่ง 96.62%
งานราวกันตก 96.05% งานบันไดเลื่อนและลิฟต์ 99.67% งานระบบไฟฟ้าและป้องกันฟ้าผ่า 94.85% ระบบป้องกันอัคคีภัย 99.16% ระบบประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย 98.63% งานภูมิสถาปัตยกรรม 98.37% และงานสถาปัตยกรรม 96.46%
"โครงการล่าช้ามาจากปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเมืองที่ต่างขั้วกัน จนเราต้องใช้เงินของ กทม.ดำเนินการเอง ทำให้ช่วงแรกเสียเวลาไป 2 ปี มาทำจริงๆ 2 ปีหลัง"
นอกจากนี้ทางบีทีเอสได้
เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ กทม.จึงต้องเลือกระบบให้สอดรับกัน ยอมรับว่าโครงการอาจล่าช้าไปบ้างแต่ไม่เคยปล่อยปละละเลย เทียบกับโครงการของรัฐบาลที่จะสร้างรถไฟฟ้า 5 สาย ขณะนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ
ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่า ในส่วนของการก่อสร้างส่วนต่อขยายบีทีเอสสายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ระยะทาง 5.2 กิโลเมตร 5 สถานี คือ สถานีบางจาก ปุณณวิถี อุดมสุข บางนา และแบริ่ง ปัจจุบันงานคืบหน้าไปแล้ว 30.03% เร็วกว่าแผน 3.22%
แยกเป็นงานออกแบบและงานดำเนินการทั่วไป 63.62% งานโครงสร้างรองรับทางวิ่ง 51.60% งานสถานี 23.96% ระบบราง 1.94% ส่วนงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคช้ากว่าแผน 3% คืบไปแล้ว 78.91% คาดว่างานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและทางวิ่งจะแล้วเสร็จต้นปี 2551 จากนั้นอีก 6 เดือนจะวางราง
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างดำเนินการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมในเฟสที่ 2 โดยแนวเส้นทางโครงการจะต่อจากโครงการรถไฟฟ้า 2.2 กิโลเมตร เริ่มจากแยกถนนตากสินออกไปอีก 5.3 กิโลเมตร ถึงทางแยกต่างระดับราชพฤกษ์หรือบางหว้า ซึ่งปัจจุบันมีโครงสร้างทางยกระดับรออยู่แล้ว 4.5 กิโลเมตร แผนงานต่อไป กทม. จะสร้างโครงสร้างทางยกระดับเพิ่มอีก 800 เมตร รวม 5.3 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 7,800 กว่า ล้านบาทมีทั้งหมด 4 สถานี ต่อจากสถานี วงเวียนใหญ่ จะเป็นสถานีรัชดาภิเษก วุฒากาศ เพชรเกษม และบางหว้า
โดยบริเวณสถานีปลายทางบางหว้า จะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณเดือนมกราคม 2551 เป็นงานก่อสร้างสถานีทางยกระดับอีก 800 เมตร และงานวางราง ซึ่งสภา กทม.อนุมัติวงเงินก่อสร้างตั้งแต่ปี 2549 จะผูกพัน 3-4 ปี ตามระยะเวลาก่อสร้างที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2552
"ในอนาคตคนฝั่งธนฯจะมีรถไฟฟ้าจากฝั่งธนฯเข้าไปในเมืองทั้งหมด 6 สถานี จะสะดวกสบายมากขึ้น ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ถ้าไม่เสียเวลาไป 2 ปี เราจะมีรถไฟฟ้าใช้แล้ว 7.5 กิโลเมตรใน ปี 2552" อภิรักษ์กล่าว
นอกจากบีทีเอสส่วนต่อขยายแล้ว ยังมีโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษหรือบีอาร์ทีสายแรก จากช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ 15.9 กิโลเมตร งบฯก่อสร้างประมาณ 2,000 ล้านบาท จะเปิดให้บริการกลางปีหน้าเช่นเดียวกัน ขณะนี้การก่อสร้างโครงการคืบหน้าแล้ว 25% คาดว่าจะเสร็จตามกำหนดเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นกลางปี 2551 จะเปิดบริการ โดยจะเปิดประมูลจัดซื้อรถโดยสาร 45 คัน วงเงิน 399 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปอีก 1 เดือนจะได้ผู้รับจ้าง และสามารถนำรถมาทดลองวิ่งได้กลางปีหน้า
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 18-10-2550
|
|
|
|
|
|
|