| |
|
|
s
i n c e
1 5
J u n 2 0 0 2 |
|
|
| B U D D Y H O M E " คู่ หู คู่ บ้ า น
ส ว ย " |
| |
 ข่
า ว เ ศ ร ษ ฐ กิ จ / ว ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง |
| |
| I
ข่าวทั้งหมด I |
|
|
| 19-07-2550
: |
ขยายถนน "สรงประภา" 6 เลน กทม.ใช้งบฯ 162 ล้าน ต่อยอด 4.3 กิโลเมตร เชื่อมการจราจร |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
กว่า 6 ปีที่รอคอย ในที่สุด "โครงการขยายถนนสรงประภา" ได้ฤกษ์ก่อสร้างเสียที หลังจากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตั้งแท่นออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2544
อาจจะดูน่าแปลกที่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ข่าวคราวของโครงการนี้เงียบหายเข้าไปในกลีบเฆม ทั้งๆ ที่มีการเวนคืนเสร็จไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปี 2548 ยิ่งถูกพิษ 16 โครงการฉาว ยิ่งทำให้โครงการนี้เกือบจะถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำไปเลย
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ทางสำนักการโยธาของ กทม. ได้เปิดประกวดราคาก่อสร้าง โดยมีบริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง วงเงิน 162 ล้านบาท ราคาต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ 200 กว่าล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญาก่อสร้าง จะใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี นับจากวันที่มีการลงนามในสัญญาก่อสร้าง
"โครงการนี้เราเวนคืนเสร็จนานแล้ว จนถึงทุกวันนี้ชาวบ้านย่านดอนเมืองก็ทั้งโทรศัพท์และทำหนังสือสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก อยากรู้ว่าเมื่อไร กทม.จะเริ่มก่อสร้างเสียที ซึ่งเราก็เร่งดำเนินการ แต่ที่ผ่านมาพอโดนสอบเรื่องทุจริต 16 โครงการทำให้โครงการล่าช้าออกไปนานพอสมควร" แหล่งข่าวจากสำนักการโยธา กทม. กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากที่เซ็นสัญญา จะให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้เลย ใช้เวลาก่อสร้าง 360 วันหรือประมาณ 1 ปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะพื้นที่ก่อสร้างไม่มีปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินแล้ว ผู้รับเหมาสามารถลงมือก่อสร้างได้ทันที คาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้ปลายปี 2551 หรือไม่เกินต้นปี 2552
สำหรับงบประมาณก่อสร้างโครงการนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฝีมือหรือเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจ ทำให้ราคากลางที่ตั้งไว้กว่า 200 ล้านบาท แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคา พบว่ามีการแข่งขันระหว่างผู้รับเหมา และในที่สุดทำให้ได้ผู้ชนะการประกวดราคาด้วยวงเงินก่อสร้าง 162 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคากลางของปี 2548 ดังนั้น ทั้ง กทม.และประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ใช้ทางจะต้องเอาใจช่วยให้โครงการแล้วเสร็จตามกำหนด ภายใต้มาตรฐานที่ออกแบบไว้
กลับมาดูที่สภาพปัจจุบันของถนนสรงประภา พบว่าค่อนข้างแคบเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณจราจรหนาแน่นในพื้นที่ โดยมีขนาด 2-4 ช่องจราจร และเป็นคอขวดช่วงปากทางเข้าริมถนน โลคอลโรดหรือแยกเชิดวุฒากาศ แม้ว่าในบางช่วงของถนนจะมีการปรับปรุงไปบ้างแล้ว และทำให้สภาพของถนนเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
เนื่องจากถนนเส้นนี้แม้ว่าจะไม่ใช่ถนนสายหลักเหมือนถนนวิภาวดีฯ แต่ก็เป็นถนนที่มีผู้ใช้ทางสัญจรเข้า-ออกค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นถนนที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเส้นทางลัด เชื่อมเส้นทางทะลุออกไปยังถนนสายต่างๆ ได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนคลองประปา ถนนศรีสมาน ปทุมธานี ติวานนท์ แจ้งวัฒนะ รังสิต วิภาวดี-รังสิต ระบบทางด่วน ที่สำคัญย่านนี้มีชุมชนที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นค่อนข้างหนาแน่น รวมทั้งสถานการศึกษา โรงเรียนต่างๆ ด้วย
"เมื่อถนนได้มีการขยายครบสมบูรณ์แล้ว จะช่วยบรรเทาปัญหาคอขวดบริเวณแยกเชิดวุฒากาศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้การเดินทางของเส้นทางนี้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องมาติดที่ปากทางเข้าเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ ทาง กทม.ได้ออกแบบโครงการโดยขยายถนนสรงประภาจากเดิม 4 ช่องจราจร มาเป็นเป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร ตั้งแต่ช่วงถนนเชิดวุฒากาศ บริเวณหน้าวัดดอนเมือง ข้ามคลองเปรมประชากร ลากยาวตลอดไปจนสุดแยกศรีสมาน รวมระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร"
ทั้งนี้ จากการสำรวจเข้าไปในถนนสรงประภา พบว่าตลอดสองข้างทางจะเป็นร้านค้า อาคารพาณิชย์ ตลาดสด พลาซา โรงเรียน และหมู่บ้านจัดสรรรายเก่า เช่น เคหะดอนเมือง ขณะเดียวกันพบด้วยว่าเริ่มมีโครงการจัดสรรรายใหม่เข้ามาปักธงเตรียมขึ้นโครงการ มีการปักป้ายโฆษณาริมถนนทั้งสองฟากบ้างแล้ว เช่น โครงการพฤกษา วิลล่า โครงการแกรนด์ คาแนล หมู่บ้านนาราวดี หมู่บ้านอารียา เป็นต้น
นอกจากนี้ ในบางช่วงยังมีการเชื่อมโยงกับถนนตัดใหม่ ซึ่งจะเชื่อมระหว่างบริเวณวัดนาวงกับเมืองเอก รวมระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งทางทหารเป็นคนก่อสร้าง ใช้งบฯก่อสร้างทั้งหมด 100 กว่าล้านบาท โดยขยายถนนเส้นเดิมจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร จะแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้ได้เต็มโครงการปลายปี 2551 ที่จะถึงนี้ ในอนาคตหลังจากเปิดใช้เส้นทางจะช่วยระบายการจราจรย่านปทุมธานีได้เป็นอย่างดี นับเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเข้า-ออกถนนสรงประภาให้มีมากยิ่งขึ้น
|
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 19-07-2550
|
|
|
| |
| |
|
|
![-----[FreeSPlanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----](http://www.freesplans.com/image/freesplan_banner1.gif)
